วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2550

Sequence!!!!!!!!!!!!!!!!!!

จากครั้งที่เเล้วมา ความคิดผมอาจจะไม่ใช่หรืออาจจะไม่ตรงประเด็นสักเท่าไหร่ นั่นคือยังไม่หลุดออกมาเท่าไหร่เลย จึงย้อนกลับไปในเรื่องของโครงที่ผมได้มาใหม่อิกครั้งหนึ่ง นั่นคือการเปลี่ยนระบบของคำว่า sequence คือการเปลี่ยนสถานการณ์ไปอิกอย่างนึง หรือการเปลี่ยนระบบของ sequence โดยมีคำว่า system เข้ามาเยงข้องด้วย จึงมาคิดว่า ในการที่ได้โครงมาเเบบนี้จะสามารถนำเสนองานเเบบไหนถึงจะเหมาะสม ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ผมคิดหนักอยู่เหมือนกัน จากครั้งที่เเล้ว พยายามจะนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับการกรอในเเต่ละ x ดูท่าจะไม่เวิร์กเลย เพราะยังมัวติดอยู่กับการกรอเพียงอย่างเดียว ยังไม่หลุดออกมาสักที เเล้วสุดท้ายก็มาพบปัญหาว่าโครงที่มีอยู่มันไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัวจึงได้คิดโครงขึ้นมาใหม่ โดยเอาเรื่องที่ตัวเองสนใจนั่นคือเกี่ยวกับดนตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองสนใจด้วย เเล้วเครื่องดนตรีทุกอย่างมันก็จะมี sequence ของมันอยู่เเต่ผม scope มาที่กลองชุด เเล้วก็เริ่มศึกษาการทำงานของกลองชุด ว่ามีโครงของ sequence เป็นอย่างไร เเบบไหน เเล้วก้ได้เเตกออกมาได้ว่ามันมีการคุมจังหวะในเเต่ละอย่าง โดยเริ่มจากกระเดื่องเเละไฮเเฮตเป็นตัวคุมจังหวะหลักบวกกับการตีสเเนร์เเละผสมกับการใส่ลูกเล่นของทอมเเต่ละใบเเละเเฉเเต่ละใบ เป็นลำดับกันไปซึ่งเวลาใส่ลูกเล่นที่ทอมเเละเเฉในเเต่ละครั้งก็จะสามารถเกิดจังหวะหรือลูกส่งเพื่อที่จะเกิดท่อนใหม่หรือจังหวะใหม่ๆ ในการตีกลองทั่วไปจึงเเตกออกมาได้ว่า เท้าขวาเเละมือขวาเป็น A โดยเป็นตัวควบคุมจังหวะ มือซ้ายเป็น B ( ตีสเเนร์ ) ถ้าเกิด A จะตามมาด้วย B เเละทอมเเละเเฉในเเต่ละอันก็จะเป็น C เข้ามาเสริมช่วยให้เกิดเป็นลูกเล่นใหม่ หรือพุดง่ายๆคือ ถ้ามี A ก็จะมี B ตามมาหรือ A +B เเล้วมี C เข้ามาเสริมทำให้เกิดผลลัพท์ใหม่หรือ sequence ใหม่ โดยโครงที่ได้มานี้เป็นการรวม โดยการสร้างความสัมพันธ์กัน ตามรูป




ไม่มีความคิดเห็น: