วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

มายาคติ


จากการที่ได้อ่านบทนำของหนังสือชื่อ มายาคติ ของโรล็องด์ บาร์ต ก็ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องมายาคติ จากการที่ผมไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ เเต่เคยได้ยินเพื่อนๆพูด ก็รู้ว่า คำว่ามายาคติมีความหมายประมาณว่าจากการที่บาร์ตนิยามมาว่า คือ การสื่อความหมายด้วยคติความเชื่อทางวัฒนธรรมซึ่งถูกกลบเกลื่อนให้รับรู้เสมือนว่าเป็นธรรมชาติ เเละจากการที่เราวิคราะห์กับเพื่อนเเละอาจารย์ในห้อง ก็ได้ถอดออกมาทีละคำทำให้ได้รับรู้ความหมาย คือ ขยายความหมายให้เข้าใจง่ายเเละลึกซึ้งขึ้นมาได้ คือการสื่อความหมายด้วยอะไรก็ตามที่มีผลต่อการรับรู้ในเชิงของความหมายเเละถูกทำให้มันเป็นเหมือนว่ามันเป็นปกติทั่วไป เเต่บาร์ตกล่าวไว้ว่าจริงหรือว่าทุกอย่างเป็นมายาคติได้หมดสิ้น บอกว่ามนุษย์สร้างความหมายขึ้นมาอย่างไม่สิ้นสุด เเล้วทำให้มันเป็นเหยื่อ ของวาทะได้ทั้งสิ้น ( เหยื่อของเงื่อนไขที่มาทำให้เป็นมายาคติ )
เเล้วสิ่งที่ผมเจอมาในเรื่องเกี่ยวกับดนตรีคือในเรื่องของดนตรีที่ชื่อว่า emo ( ซึ่งย่อมาจากคำว่า emotion harcore จากหนังสือดนตรีเล่มหนึ่ง ) การที่ดนตรีในเเนวนี้ดังขึ้นมาเริ่มจากกระเเสดนตรีฝั่งอเมริกาได้เเผ่ซ่านเข้ามาในไทย ประเทศซึ่งชอบรับวัฒนธรรมประเทศอื่นจังเลย รวมผมด้วย ฮ่าๆ ทำให้วงดนตรีในไทยเริ่มมีการเอาดนตรีเเนวนี้มาทำกันเยอะมาก จนไม่รู้ว่าอีโมจริงหรือป่าว หรือว่าเป็นเเค่ อีโม คลายกรดลดเเน่นเฟ้อ ว่ากันไป เเต่จากประสบการณ์ที่ผมได้ยินเเละรับฟังมา พอดนตรีอีโมดังขึ้นมาชุมชนเด็กไทยใจอีโมก็เกิดขึ้นมา ท่ามกลางวงดนตรีต่างประเทศที่กระหนำออกมาหลายวงมาก บางวงก็เป็นดนตรีอีโมจริงๆ ( เพราะว่าวงเค้าบอกว่าเค้าคืออีโม ) เเต่บางวงก็ออกมาในช่วงที่ดนตรีอีโมกำลังดังก็ถูกมองว่าเป็นวงอีโม ทั้งที่เค้าไม่ใช่เลยเเม้เเต่นิดเดียว บางวงก็เป็นเมทั่ล เป็นดนตรีหวานๆ ก็ยังถูกมองว่าเป็นอีโมไปกันหมด เหมือนว่าใครทำดนตรีหนักๆออกมาในช่วงนี้ก็ถูกมายาคติของคนที่รู้เเค่ว่าดนตรีอีโมมันต้องหนักๆเเหกปาก สำรอก ถูกมายาคติกลบว่าเป็นวงอีโมซะหมดเลย ผมเคยได้ยินเพื่อนพูดกันว่า ผมเปิดเพลงของวงๆนึงขึ้นมาซึ่งมันเป็นวงของประเทศอังกฤษ เป็นเเนว เมทั่ล เดธคอร์ ( วัยรุ่นที่อังกฤษกำลังนิยมในช่วงนี้ ) เพื่อนก็มาบอกว่า '' เฮ้ย มึงอีโมหรอ ฮ่าๆๆ" ผมก็ไม่อยากจะอธิบายต่อ ผมได้เเต่งงว่ามันอีโมตรงไหนวะ มึงเอาไรมาวัดว่ามันคืออีโมหรือว่านักร้องนำโทรมาบอกมึง ถ้ามันโทรมาบอกช่วยให้มันโทรมาหากูด้วย ฮ่าๆ เพราะเค้าถูกมายาคติครอบมาเเล้วว่าดนตรีอีโมต้องเป็นเพลงเเบบหนักๆ สำรอกๆ พูดเเล้วเศร้า ไม่ใช่ว่าผมเกลียดเเนวดนตรีอีโมนะผมก็ฟัง เเต่ตอนนี้ผมได้เห็นเด็กๆเเต่งตัวเเนวนี้มากันเยอะบางคนก็รู้จักบ้างเเต่บางคนไม่รู้เลยด้วยว่ามันคือไร โอเคมึงเเต่งก็เเต่งด้วย เเล้ววงบางวงที่ต่างประเทศเค้าดังเค้าจะทำทรงผมหัวเป๋ๆหน่อยเเบบว่าโกนตัดข้างนึงหรือว่าทำไงก็ได้ให้อิกข้างยาวกว่า จนเกิดผลกระทบต่อคนที่ตัดผมประมานนี้อยู่เเล้ว ฮ่าๆ ผมมาระบายเเค่นี้เเหละ เด้กสมัยใหม่หรือคนที่ไม่ได้รู้จักความหมายคำว่าอีโมจิงถูกมายาคติในช่วงนี้เเบบเผินๆครอบงำไปหมดเเล้วว่าเป็นอย่างโง้นอย่างงี้ ความจิงผมก็ไม่ได้รู้ไรมากกว่าคนอื่นเท่าไหร่หรอก เเต่ก็รู้มาพอตัวเหมือนกัน ขนาดทีโบนเล่นคอนเสิตยังตะโกนบอกเเฟนเพลงว่า this is a emo you know EMO come to town ฮ่าๆๆ ป่าวๆอันนี้ผมล้อเล่น จริงๆเเล้วจากคำว่าอีโมเปลี่ยนเป็นคำว่าทีโบนอะเเหละ จบการระบายเเต่เพียงเท่านี้ สวัสดีชาวอีโม คลายกรดลดเเน่นเฟ้อ

ไม่มีความคิดเห็น: